- <? php $point=50; //คะแนน if($point>=0 && $point<=49) echo 'grade=0'; else if($point>=50 && $point<=54) echo 'grade=1'; else if($point>=55 && $point<=59) echo 'grade=1.5'; else if($point>=60 && $point<=64) echo 'grade=2'; else if($point>=65 && $point<=69) echo 'grade=2.5'; else if($point>=70 && $point<=74) echo 'grade=3'; else if($point>=75 && $point<=79) echo 'grade=3.5'; else if($point>=80 && $point<=100) echo 'grade=4'; else echo 'กรุณากรอกคะแนนใหม่ เนื่องจากคะแนนที่กรอกไม่อยู่ในช่วง 0-100';?>
วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556
1. เริ่มจากการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม ต้องมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีค่าความเป็นด่างที่สมดุล เช่น ครีมนวดผมต้องมีคุณสมบัติปรับสภาพเส้นผมให้ชุ่มชื่นและล้างออกได้ง่าย
2. เวลาสระผมจะต้องนวดหนังศีรษะไปพร้อมกัน เพราะจะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนโลหิตที่หนังศีรษะดีขึ้น ให้น้ำมันตามธรรมชาติไปหล่อเลี้ยงเส้นผม หรืออาจนวดระหว่างวันด้วยหวีแปรงไม้
3. เมื่อผมเปียกชื้นอาจเป็นปัญหาหนึ่งที่สาวๆ อย่างเราต้องกังวล เพราะเวลาผมแห้งก็จะฟู ฉะนั้นอาจพกไดร์เป่าผมตัวจิ๋วไว้ในกระเป๋าหรือที่ทำงานสักอัน นอกจากจะได้ผมสลวยแล้ว เป็นอีกทางหนึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นหวัดได้เป็นอย่างดี
4. เวลาเป่าผมให้แห้ง ควรเป่าผมจากบนลงล่าง เพราะเกล็ดผมจะเรียงตัวตามธรรมชาติ ทำให้เส้นผมเรียงตัวสวยและเรียบเงางาม ไม่ชี้ฟู
5. สาวใดที่นิยมไดร์ผมให้ตรง ดัดผมด้วยโรลไฟฟ้า และรีดผมด้วยไฟฟ้า ต้องระวังเรื่องไฟดูดและควรใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อนด้วยเสมอ
6. ถ้าจำเป็นต้องหวีผมขณะที่เปียก ควรใช้หวีซี่ห่างๆ จะช่วยให้เส้นผมขาดน้อยลงได้
7. การกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพที่ดีด้วยเช่นกัน ควรเลือกอาหารจำพวก ผัก ผลไม้ และควรดื่มน้ำให้มาก หลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านกระบวนการขัดสี รวมทั้งพยายามงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ ก็จะเรียกได้ว่าเป็นการบำรุงให้ผิวและผมสวยใสจากภายในสู่ภายนอกนั่นเอง
8. ถ้าต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรปกป้องเส้นผมจากแสงแดดด้วยการสวมหมวก หรือทาครีมปรับสภาพผมทิ้งไว้เมื่อต้องออกแดด จากนั้นค่อยล้างออกตามปกติ
นอกจากนี้ปัญหาของสภาพผมสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากกว่าการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สะเปะสะปะ ซึ่งสามารถนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ที่บ้านได้
สาวผมมัน นำว่านหางจระเข้มาฝานเปลือกออก แล้วนำเนื้อเจลไปปั่น จากนั้นตักมา 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา และแชมพูที่ใช้อยู่อีก 1 ถ้วยตวง แล้วนำไปสระผมตามปกติ จะช่วยให้เส้นผมมีสมดุล ไม่แห้งและมัน
สาวผมแห้ง นำอโวคาโด 1 ผล ปอกเปลือกและบดให้ละเอียด ผสมกับกะทิจนเป็นเนื้อเดียวกัน ใช้หมักผมหลังจากสระผมเรียบร้อยแล้ว โดยนวดให้ทั่วศีรษะ ใช้หวีซี่ห่างๆ แปรงผมให้เป็นระเบียบ ทิ้งไว้ 15 นาทีจึงล้างออก
สาวผมไม่มีน้ำหนัก ควรใช้น้ำส้มสายชูเศษหนึ่งส่วนสองถ้วยตวง ผสมน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวงและน้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มานวดเส้นผมและหนังศีรษะขณะเปียกให้ทั่ว ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วจึงล้างออก
ส่วนสาวที่มีปัญหารังแค หลังจากสระผมด้วยแชมพูขจัดรังแคตามปกติแล้ว นำชาโรสแมรี่ที่ทิ้งไว้จนเย็นมาล้างผมในน้ำสุดท้าย หรือใช้ชาโรสแมรี่ผสมกับแชมพูในอัตราส่วน 70 ต่อ 30 หรือใช้แชมพูซึ่งมีส่วนผสมจากน้ำมันมานูก้า ทีทรี ไรม์ การสระผมทุกครั้งต้องแน่ใจว่าได้ล้างแชมพูออกจนหมด เพราะสารตกค้างจะเร่งให้หนังศีรษะผลิตน้ำมากและทำให้รากผมมัน
เพียงเท่านี้เส้นผมก็จะสลวยเงางามมีสุขภาพดี
สาวผมมัน นำว่านหางจระเข้มาฝานเปลือกออก แล้วนำเนื้อเจลไปปั่น จากนั้นตักมา 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา และแชมพูที่ใช้อยู่อีก 1 ถ้วยตวง แล้วนำไปสระผมตามปกติ จะช่วยให้เส้นผมมีสมดุล ไม่แห้งและมัน
สาวผมแห้ง นำอโวคาโด 1 ผล ปอกเปลือกและบดให้ละเอียด ผสมกับกะทิจนเป็นเนื้อเดียวกัน ใช้หมักผมหลังจากสระผมเรียบร้อยแล้ว โดยนวดให้ทั่วศีรษะ ใช้หวีซี่ห่างๆ แปรงผมให้เป็นระเบียบ ทิ้งไว้ 15 นาทีจึงล้างออก
สาวผมไม่มีน้ำหนัก ควรใช้น้ำส้มสายชูเศษหนึ่งส่วนสองถ้วยตวง ผสมน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวงและน้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มานวดเส้นผมและหนังศีรษะขณะเปียกให้ทั่ว ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วจึงล้างออก
ส่วนสาวที่มีปัญหารังแค หลังจากสระผมด้วยแชมพูขจัดรังแคตามปกติแล้ว นำชาโรสแมรี่ที่ทิ้งไว้จนเย็นมาล้างผมในน้ำสุดท้าย หรือใช้ชาโรสแมรี่ผสมกับแชมพูในอัตราส่วน 70 ต่อ 30 หรือใช้แชมพูซึ่งมีส่วนผสมจากน้ำมันมานูก้า ทีทรี ไรม์ การสระผมทุกครั้งต้องแน่ใจว่าได้ล้างแชมพูออกจนหมด เพราะสารตกค้างจะเร่งให้หนังศีรษะผลิตน้ำมากและทำให้รากผมมัน
เพียงเท่านี้เส้นผมก็จะสลวยเงางามมีสุขภาพดี
สาวผมแห้ง นำอโวคาโด 1 ผล ปอกเปลือกและบดให้ละเอียด ผสมกับกะทิจนเป็นเนื้อเดียวกัน ใช้หมักผมหลังจากสระผมเรียบร้อยแล้ว โดยนวดให้ทั่วศีรษะ ใช้หวีซี่ห่างๆ แปรงผมให้เป็นระเบียบ ทิ้งไว้ 15 นาทีจึงล้างออก
สาวผมไม่มีน้ำหนัก ควรใช้น้ำส้มสายชูเศษหนึ่งส่วนสองถ้วยตวง ผสมน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวงและน้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มานวดเส้นผมและหนังศีรษะขณะเปียกให้ทั่ว ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วจึงล้างออก
ส่วนสาวที่มีปัญหารังแค หลังจากสระผมด้วยแชมพูขจัดรังแคตามปกติแล้ว นำชาโรสแมรี่ที่ทิ้งไว้จนเย็นมาล้างผมในน้ำสุดท้าย หรือใช้ชาโรสแมรี่ผสมกับแชมพูในอัตราส่วน 70 ต่อ 30 หรือใช้แชมพูซึ่งมีส่วนผสมจากน้ำมันมานูก้า ทีทรี ไรม์ การสระผมทุกครั้งต้องแน่ใจว่าได้ล้างแชมพูออกจนหมด เพราะสารตกค้างจะเร่งให้หนังศีรษะผลิตน้ำมากและทำให้รากผมมัน
เพียงเท่านี้เส้นผมก็จะสลวยเงางามมีสุขภาพดี
สาวผมไม่มีน้ำหนัก ควรใช้น้ำส้มสายชูเศษหนึ่งส่วนสองถ้วยตวง ผสมน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวงและน้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มานวดเส้นผมและหนังศีรษะขณะเปียกให้ทั่ว ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วจึงล้างออก
ส่วนสาวที่มีปัญหารังแค หลังจากสระผมด้วยแชมพูขจัดรังแคตามปกติแล้ว นำชาโรสแมรี่ที่ทิ้งไว้จนเย็นมาล้างผมในน้ำสุดท้าย หรือใช้ชาโรสแมรี่ผสมกับแชมพูในอัตราส่วน 70 ต่อ 30 หรือใช้แชมพูซึ่งมีส่วนผสมจากน้ำมันมานูก้า ทีทรี ไรม์ การสระผมทุกครั้งต้องแน่ใจว่าได้ล้างแชมพูออกจนหมด เพราะสารตกค้างจะเร่งให้หนังศีรษะผลิตน้ำมากและทำให้รากผมมัน
เพียงเท่านี้เส้นผมก็จะสลวยเงางามมีสุขภาพดี
ส่วนสาวที่มีปัญหารังแค หลังจากสระผมด้วยแชมพูขจัดรังแคตามปกติแล้ว นำชาโรสแมรี่ที่ทิ้งไว้จนเย็นมาล้างผมในน้ำสุดท้าย หรือใช้ชาโรสแมรี่ผสมกับแชมพูในอัตราส่วน 70 ต่อ 30 หรือใช้แชมพูซึ่งมีส่วนผสมจากน้ำมันมานูก้า ทีทรี ไรม์ การสระผมทุกครั้งต้องแน่ใจว่าได้ล้างแชมพูออกจนหมด เพราะสารตกค้างจะเร่งให้หนังศีรษะผลิตน้ำมากและทำให้รากผมมัน
เพียงเท่านี้เส้นผมก็จะสลวยเงางามมีสุขภาพดี
เพียงเท่านี้เส้นผมก็จะสลวยเงางามมีสุขภาพดี
วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556
10 สุดยอดอาหาร เพื่อผมสุขภาพดี
10 สุดยอดอาหาร เพื่อผมสุขภาพดี
"สระและล้างผมเป็นประจำ" เป็นคำแนะนำที่ทุกคนได้ยินกันได้ทั่วไปค่ะ แต่เพียงแค่แชมพูและครีมนวดผมไม่ได้ทำให้ผมคุณสุขภาพดีได้ตลอด เพราะผมของคุณยาวขึ้นประมาณ 2 เซนติเมตรครึ่งต่อเดือน และเส้นผมของเราจะเจริญเติบโตเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับอาหารที่เรารับประทาน อยู่ทุกวันนี้ด้วยนะคะ ดังนั้นหากเรารับประทานอาหารที่ดีแล้วเส้นผมเราก็จะมีน้ำหนัก เงางามและมีสุขภาพดีด้วย เพราะการบำรุงควรบำรุงลึกจากภายใน ดังนั้น เพียงแค่การสระผมไม่พอค่ะ คุณต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งเราจะมาดูกันนะคะว่ามีอะไรบ้าง
1. ปลาแซลมอน
อาหารที่ไม่ควรมองข้ามเลย นั่นคือ ปลาแซลมอนค่ะ เพราะอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง พร้อมทั้งอุดมด้วยวิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงหนังศีรษะ ดังนั้นการขาดกรดไขมันโอเมก้า 3 จึงทำให้หนังศีรษะแห้งเป็นสาเหตุของรังแคนั่นเอง
2. ผักใบเขียวเข้ม
ผักเหล่านี้ก็อย่างเช่น ผักโขม บร็อกโคลี่ คือ แหล่งรวมมิตามินเอและซี ที่ร่างกายของเราต้องการเพื่อสร้างไขมันผิวหนังค่ะ โดยน้ำมันจากรากผมของเรานั่นแหละ คือสิ่งที่บำรุงผมเราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ผักใบเขียวเข้มยังช่วยสร้างธาตุเหล็กและแคลเซียมที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายอีกด้วยนะคะ
3. ถั่ว
ถั่วเนี่ยนะคะที่จะดีต่อผมของคุณ? ใช่แล้วค่ะ เจ้าถั่วที่มีรูปร่างคล้ายกรวยไตนี่แหละค่ะ ที่เป็นอาหารเพื่อการดูแลสุขภาพผมได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะช่วยเสริมสร้างโปรตีนเพื่อการเจริญเติบโตของเส้นผมแล้ว ยังช่วยสร้างธาตุเหล็ก สังกะสีและไบโอทินจำนวนมาก ซึ่งไบโอทินยังช่วยให้เส้นผมไม่เปราะบางอีกด้วยนะคะ
4. ถั่วเปลือกแข็ง
คุณอยากให้เส้นผมของคุณดูหนานุ่ม สลวยหรือไม่คะ? ถ้าอยาก ก็ต้องรับประทานถั่วเปลือกแข็งต่าง ๆ เพราะเป็นแหล่งสะสมธาตุซีลีเนียม สารธรรมชาติซึ่งช่วยเสริมสร้างหนังศีรษะให้แข็งแรงเพื่อช่วยให้ผมไม่ขาดหลุดร่วงได้ง่ายค่ะ
นอกจากนี้ ยังมีถั่วชนิดอื่น ๆ เช่น วอลนัทซึ่งมีส่วนประกอบของกรดโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยเพิ่มความนุ่มให้แก่เส้นผม เม็ดมะม่วงหิมพานต์และเม็ดอัลมอนด์มีส่วนประกอบของธาตุสังกะสีที่ช่วยให้เส้นผมไหลลื่นค่ะ ดังนั้นให้แน่ใจว่าคุณรับประทานจำพวกถั่วเปลือกแข็งอยู่เสมอนะคะ อาจจะนำมาเคี้ยวเพลิน ๆ เวลาดูทีวีก็ได้นะ
5. อาหารจำพวกสัตว์ปีก
อาหารเหล่านี้ให้โปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างเส้นผมอยู่แล้ว ซึ่งช่วยให้ผมไม่เปราะบางขาดง่ายค่ะ นอกจากนี้ยังมีธาตุเหล็กในปริมาณมาก ซึ่งทำให้ร่างกายของคุณได้รับประโยชน์อีกด้วยนะคะ
6. ไข่
ไข่ที่ว่านี้ สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายรูปแบบนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการทอด ตุ๋น ต้ม แต่ก็ล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพผมเช่นกันค่ะ เพราะไข่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยมอีกแหล่งหนึ่งที่ช่วยบำรุงเส้นผม นอกจากนี้ไข่ยังมีส่วนประกอบของไบโอทีนและวิตามินบี 12 ซึ่งเป็นแหล่งโภชนาการสำหรับเส้นผมค่ะ
7. ธัญพืช
อาหารที่มีส่วนผสมของธัญพืชไม่ว่าจะเป็นขนมปังโฮลวีต หรือ จำพวกซีเรียลต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของธาตุเหล็ก สังกะสีและวิตามินบี หรือ หากในชั่วโมงเร่งด่วน เราอาจทานของขบเคี้ยวโฮลวีตก็ช่วยเพิ่มพลังงานให้ได้
8. หอยนางรม
เรารู้กันดีว่า หอยนางรมมีสารกระตุ้นอารมณ์ทางเพศนะคะ นอกจากนี้มันยังมีประโยชน์กับเส้นผมอีกต่างหาก แล้วแบบนี้ใครจะไม่อยากรับประทานมันอีกล่ะคะ เพราะมันมีสารประกอบของสังกะสี และสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ถ้าคุณไม่ค่อยชอบทานจริง ๆ ก็ทานประเภทธัญพืชและถั่วเปลือกแข็ง หรือ จะเป็นจำพวกเนื้อวัวและเนื้อแกะที่มีส่วนประกอบของสังกะสีแทนได้นะคะ
9. ผลิตภัณท์นมเนยไขมั่นต่ำ
อาหารประเภทนี้ ก็เช่น นมไขมันต่ำและโยเกริ์ต โดยเป็นแหล่งรวมแคลเซียมซึ่งเป็นส่วนประกอบสำหรับการเจริญเติบโตของเส้นผมค่ะ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของคาซีนซึ่งเป็นโปรตีนจากนม ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงนะคะ อาหารจำพวกนี้หากินได้ตลอดทั้งวัน อาจทาน ๆ ง่ายระหว่างวันก็ช่วยให้อิ่มท้องได้ด้วยนะคะ
10. แครอท
แครอทเป็นแหล่งรวมวิตามินเอที่ดีมากนะคะ โดยวิตามินเอนี้ก็ช่วยเสริมสร้างหนังศีรษะให้มีสุขภาพดี เมื่อหนังศีรษะมีสุขภาพดีแล้วก็ทำให้เส้นผมเป็นประกายเงางาม นอกจากนี้หากคุณต้องการไดเอทไปด้วย คุณก็สามารถกินแครอทที่อยู่ในสลัดไปด้วยได้ค่ะ
ที่มา http://women.kapook.com/view26336.html
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://blog.eduzones.com/poonpreecha/80866
วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556
วิธีดูแลเส้นผม
เริ่มจากวิธีแรก คือการดูแลผมและรักษาผมของคุณในชีวิตประจำวันอย่างถูกสุขลักษณะ โดยคำนึงถึงหลักดูแลผมตามธรรมชาติ 6 ข้อนี้ 1.เวลาสระผมให้นวดหนังศีรษะไปด้วย โดยการใช้มือขยุ้มเบาๆ ที่หนังศีรษะ เพื่อช่วยให้เกิดการหมุนเวียนโลหิตทั่วบริเวณหนังศีรษะแถมยังทำให้น้ำมันตามธรรมชาติไปหล่อเลี้ยงเส้นผมได้ดียิ่งขึ้น 2.หลังการสระผม ควรใช้ผมให้แห้งก่อนหวี เพราะการหวีขณะที่ผมเปียกจะทำให้เส้นผมขาดง่าย หากจำเป็นควรใช้หวีไม้ซี่ห่างเพื่อลดการขาดและหลุดร่วงของเส้นผม 3.ส่วนผู้ที่นิยมไดร์ผมให้แห้ง ควรใช้ไดร์เป่าผมเป่าในลักษณะบนลงล่าง จากโคนผมไปสู่ปลายผม เพราะจะช่วยให้เกล็ดผมจะเรียงตัวตามธรรมชาติ ทำให้เส้นผมนุ่มสลวย แลดูเงางามและไม่ชี้ฟู 4.การใช้ไดร์เป่าผมด้วยโรลไฟฟ้าและรีดผมให้ผมเรียบตรงด้วยเครื่องรีดไฟฟ้าควรใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อนด้วยเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาผมแห้งเสีย เพราะความร้อนสูงของเครื่องมือเหล่านี้จะทำให้เส้นผมถูกทำลายอย่างมาก 5.หลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านกระบวนการขัดสีต่างๆ รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ที่จะเข้าไปทำลายความแข็งแรงของเส้นผมได้ 6.หากมีกิจกรรมกลางแจ้ง เส้นผมต้องเผชิญกับแสงแดดแรงกล้า ควรป้องกันเส้นผมจากแสงแดดและรังสียูวีโดยการสวมหมวกหรือชะโลมด้วยผลิตภัณฑ์ปรับสภาพเส้นผมก่อนออกแดดเสมอ | |||
:: How to @ Home เริ่มจากนำใบชะอมประมาณหนึ่งกำมือมาต้มกับน้ำ 3 ถ้วยใหญ่ คนให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นคัดใบชะอมทิ้ง เหลือเก็บไว้แต่น้ำเท่านั้น หลังสระผมด้วยแชมพูและครีมนวดผมที่คุณชื่นชอบ ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำชะอมที่เตรียมไว้พอหมาดๆ แล้วนำมาเช็ดเส้นผมให้ทั่ว พร้อมทำการนวดหนังศีรษะไปด้วย ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เป็นอันเสร็จขั้นตอน ส่วนน้ำชะอมที่เหลือสามารถแช่เก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อนำมาใช้ในครั้งต่อไปได้ เพียงวิธีง่ายๆ เหล่านี้ก็จะช่วยทำให้ผมที่แห้งเสียของคุณกลับมาดูดีขึ้นได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรมากมายนัก เพียงแค่ใช้การเอาใจใส่และสละเวลาเล็กๆ น้อยๆ ดูแลผมของคุณในแต่ละวันเท่านั้นเอง (ข้อมูลจาก : ผลิตภัณฑ์ Schwarzkopf Extra Care Hair Repair with Liquid Keratin with Shea & Cashmere) ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9550000004276 |
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)

